Thursday 4 April 2013

ตำรวจเชื่อคดี "ปาร์คซีฮู" มีมูล - ทนายพระเอกดังจวกเจ้าหน้าที่ไม่ยุติธรรม


 
ความคืบหน้าล่าสุดในคดีที่ "ปาร์คซีฮู" โดนกล่าวหาว่าลงมือข่มขืนหญิงสาวคนหนึ่ง ดูเหมือนว่าพระเอกดังจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากแล้ว หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งเรื่องต่อให้กับอัยการ และสรุปผลการสอบสวนว่าเห็นควรให้มีการสั่งฟ้อง
       
       ดาราชาวเกาหลีใต้ชื่อดัง ปาร์คซีฮู โดนกล่าวหาว่าลงมือข่มขืนหญิงสาว เด็กฝึกหัดเป็นศิลปินของบริษัทบันเทิงแห่งหนึ่ง หลังได้พบเธอที่บาร์ ในคืนวันที่ 14 ก.พ.
       
       โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ความเห็นประกอบการสืบสวนว่าเห็นสมควรให้สั่งฟ้อง ปาร์คซีฮู เพราะพฤติกรรมของเขาเข้าข่ายเป็นการข่มขืน และล่วงละเมิดทางเพศคู่กรณี จากการมีเพศสัมพันธ์โดยที่ผ่ายหญิงไม่มีสติสัมปชัญญะ และไม่สามารถขัดขืนใด ๆ ได้ นอกจากนั้นหลังเกิดเหตุเธอยังไม่สามารถแจ้งเรื่องหรือขอความช่วยเหลือใด ๆ ได้ทันที เพราะยังอยู่ในอาการหมดสติหลังถูกล่วงละเมิดไปแล้ว
       
       ฝ่าย ปาร์คซีฮู และทีมงานทางกฎหมายของเขายังคงยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหามาโดยตลอด และกล่าวหากลับว่าฝ่ายหญิงมีเจตนาจะเรียกเงินก้อนโตจากพระเอกคนดัง ด้วยพิรุธที่เธอเปลี่ยนคำให้การหลายครั้ง โดย ปาร์ค กล่าวว่าเขาพร้อมจะพิสูจน์ความจริงต่อหน้าอัยการ
       
       อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ไม่นานนัก ทนายความของฝ่ายพระเอกชื่อดัง เพิ่งจะออกมาให้ข่าว แสดงความไม่พอใจในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะเรื่องที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้นำหลักฐานบทสนทนาทาง Kakao Talk (โปรแกรมส่งข้อความสนทนาทางโทรศัพท์มือถือ) ซึ่งชี้ให้เห็นถึงข้อพิรุธของฝ่ายหญิงหลาย ๆ ประการ มาใช้พิจารณาในขั้นตอนสืบสวนด้วย


   "เธออ้างว่าหมดสติไประหว่างเวลา 1:10 น. จนถึง 13:00 น. ของวันที่ 15 ก.พ. แต่จากข้อมูลใน Kakao ปรากฏว่ามีการส่งข้อความระหว่างเธอและมารดา, เพื่อนสนิท รวมถึงบุคคลอื่นถึง 38 ครั้ง โดยเป็น 24 ข้อความที่มาจากเธอเอง เพราะฉะนั้นเรื่องที่ว่าเธอไม่ได้สตินั้นเป็นคำโกหกแน่นอน" ทีมกฎหมายของฝ่ายพระเอกกล่าว
       
       "หากสิ่งที่เธอบอกเกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง เธอก็ควรส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือทันที แต่เธอยังอยู่ในอพาร์ตเมนต์ถึง 2 - 3 ชั่วโมงหลังโดนล่วงละเมิด ก่อนจะเดินทางออกไปในเวลา 14:40 น. และยังส่งข้อความระหว่างอยู่ที่อพาร์ตเมนต์แห่งนั้นด้วย"
       
       "ถือว่าเป็นสิ่งที่ขัดกับสามัญสำนึก ที่ว่าเธอมีสัมพันธ์ทางเพศไปโดยไม่ได้ยินยอม ซึ่งมีการส่งข้อมูลพวกนี้ไปให้กับทางตำรวจแล้ว แต่พวกเขาก็ยังมองในแบบเดิมโดยไม่ได้พิจารณาหลักฐานพวกนี้"
       
       "ตำรวจทำตัวเหมือนเป็นทนายความของฝ่ายหญิง แทนที่จะเป็นการสืบสวนอย่างปกติ ทั้งเปิดเผยข้อมูลที่ทำให้ฝ่าย ปาร์คซีฮู เสียหาย ปล่อยรายละเอียดต่าง ๆ ให้กับสื่อ เข้าข่ายเป็นการเหยียบย่ำหลักพื้นฐานของการให้ความยุติธรรม แก่ผู้ต้องหา จนกว่าจะมีการตัดสินคดีความในท้ายที่สุด" โดยทางทีมกฎหมายของดาราหนุ่ม ยังเปรยว่าอาจมีการร้องเรียนถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ ให้กับองค์กรเพื่อสิทธิพลเมืองต่อต้านการทุจริตต่อไป
 
cr.http://www.manager.co.th

No comments:

Post a Comment